สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
หน้าฝนนี้ อย่าลืมสร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ เพราะเชื้อไข้หวัดใหญ่เปลี่ยนสายพันธุ์ทุกปี การฉีดวัคซีนจึงจำเป็นและเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม
รู้จักไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ คืออะไร ?
โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นไวรัสที่มีชื่อว่า “ไวรัสอินฟลูเอนซ่า” (Influenza virus) โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ มี Influenza A และ B ซึ่งแต่ละชนิดแบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อย 4 สายพันธุ์ ดังนี้ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/ H1N1, ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A/ H3N2 , ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria และ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata
อาการแบบนี้ เสี่ยงไข้หวัดใหญ่
ส่วนใหญ่จะเริ่มมีอาการป่วยใน 1-2 วัน หลังได้รับเชื้อจากนั้นจะเกิดอาการของระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง มักจะมีอาการที่ชัด เช่น มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ อาจมีการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย
กลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการป้องกันด้วยวัคซีน
- เด็กต่ำกว่า 3 ปี
- ผู้สูงอายุที่มากกว่า 65 ปี
- หญิงตั้งครรภ์
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน หัวใจ ปอด ความผิดปกติของตับไต , ภูมิแพ้ตัวเอง ภูมิคุ้มกันบกพร่อง , ได้ยากดภูมิ เช่น โรครูมาตอยด์ และ เปลี่ยนถ่ายอวัยวะ เป็นต้น
ทำไมต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ที่ระบาดในแต่ละปี ทำให้เกิดเชื้อใหม่อยู่เป็นระยะ รวมถึงภูมิคุ้มกันของร่างกายที่มีต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่อยู่ได้ประมาณ 1 ปี และมักจะลดต่ำลงในระยะเวลาไม่กี่เดือนหรือปี ดังนั้นแนะนำให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ ก่อนหน้าฝนและหน้าหนาวที่เป็นฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ การได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่และลดความรุนแรงของโรคได้อีกด้วย จึงควรฉีดเป็นประจำทุกปี