CGM เพื่อนซี้เพื่อผู้ป่วยเบาหวาน

คลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟู
คลินิกสุขภาพเชิงป้องกัน และฟื้นฟู
-
14 พ.ย. 2567
-
#

 

ในปัจจุบัน การดูแลจัดการโรคเบาหวานมีความก้าวหน้าอย่างมาก มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย หนึ่งในนั้นคือ การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง (Continuous Glucose Monitoring หรือ CGM) ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของตัวเองได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยา และการดำเนินชีวิตอื่น ๆ ได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น

 

หลักการทำงานของเครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง

เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง หรือ Continuous Glucose Monitoring (CGM) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ติดตามระดับน้ำตาลในเลือดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องใช้เข็มเจาะเลือดปลายนิ้ว (Blood Glucose Monitoring, BGM) อุปกรณ์นี้จะใช้เซ็นเซอร์ขนาดเล็กเทียบเท่ากับเส้นผม สอดเข้าไปในชั้นใต้ผิวหนังบริเวณหลังแขนหรือหน้าท้อง เพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลจากสารน้ำที่แทรกอยู่ในระหว่างเซลล์ (Interstitial Fluid) จากนั้นจะส่งสัญญาณผ่านตัวรับ และแสดงผลบนอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น มือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ 

  1. Real-time CGM (rtCGM) - ระบบที่วัดและแสดงผลระดับน้ำตาลกลูโคสได้อย่างต่อเนื่อง และส่งเข้าอุปกรณ์ตัวรับผ่านระบบบลูทูธได้โดยอัตโนมัติ 
  2. Intermittently-scanned CGM (isCGM)- ระบบที่มีการวัดระดับน้ำตาลกลูโคสตลอดเวลา แต่ต้องนำเครื่องรับสัญญาณมาอ่านค่า เพื่อให้แสดงผลและบันทึกค่าระดับน้ำตาลดังกล่าว 
  3. Professional CGM – ระบบที่ติดตั้งอุปกรณ์กับผู้ป่วย เป็นระยะเวลา 7-14 วัน โดยผู้ป่วยอาจจะไม่ทราบระดับน้ำตาลขณะติดเครื่อง โดยบุคลากรทางแพทย์จะสามารถเข้าถึงข้อมูล และนำมาวิเคราะห์เพื่อปรับเปลี่ยนการรักษาต่อไป

ประโยชน์ของเครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง

  1. ช่วยให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้น – เครื่อง CGM ช่วยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของอาหารที่รับประทานต่อระดับน้ำตาลแบบเรียลไทม์ ช่วยสร้างความตระหนักในการใช้ชีวิตมากขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย หรือการปรับยาอินซูลินแบบฉีดในกลุ่มที่มีการใช้ยาดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม 
  2. ช่วยป้องกันการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) และภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) - เครื่อง CGM ช่วยแจ้งเตือนในกรณีที่น้ำตาลของเราต่ำหรือสูงเกินไปก่อนที่จะมีอาการ และป้องกันอันตรายจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและสูงได้ 
  3. ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น – แพทย์และผู้ป่วยทราบข้อมูลเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มมากขึ้น จึงง่ายต่อการสื่อสารและปรับเปลี่ยนปริมาณยาที่ใช้ให้เหมาะสม อีกทั้งยังลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย

ข้อควรคำนึงก่อนใช้เครื่องตรวจวัดน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง

  • การสอบเทียบเครื่องวัด (Calibration)

เลือกใช้เครื่อง CGM จากบริษัทที่มีการสอบเทียบเครื่องวัดอยู่เสมอ เพื่อความแม่นยำของข้อมูล และหากมีการแจ้งเตือนว่าระดับน้ำตาลสูงหรือต่ำผิดปกติ ควรมีการตรวจน้ำตาลปลายนิ้วยืนยันผลอีกครั้ง

  • ราคา

เครื่อง CGM ในปัจจุบันยังคงมีราคาสูง และมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเซ็นเซอร์ทุก 7-14 วัน 

  • อาการข้างเคียง

ผู้ใช้บางรายอาจเกิดอาการระคายเคืองทางผิวหนัง หรืออาการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้อย่าง Isobornyl acrylate ซึ่งเป็นสารยึดติดอุปกรณ์กับผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้งาน และหมั่นสังเกตอาการหลังติดตั้งอุปกรณ์ 

  • การเปลี่ยนเซ็นเซอร์

อุปกรณ์ต้องมีการเปลี่ยนเซ็นเซอร์ทุก 7-14 วัน หากผู้ป่วยไม่สามารถเปลี่ยนเองได้ อาจต้องเดินทางไปสถานพยาบาล

 

การตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง (CGM) เปรียบเสมือนผู้ช่วยในการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวาน ข้อมูลที่ได้รับสามารถใช้วิเคราะห์เพื่อปรับพฤติกรรมและการรักษาได้อย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ทั้งนี้ เราควรศึกษาถึงวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตลอดการใช้งาน

 

Share:

@2020 BDMS Wellness Clinic. All rights Reserved