New Year New You | 3 เคล็ดลับดูแลสุขภาพ ต้อนรับปี 2566

     ช่วงปีใหม่ เป็นช่วงเวลาแห่งการมอบของขวัญและคำอวยพร สำหรับวันปีใหม่ปีนี้ อยากเชิญชวนทุกคนมามอบของขวัญให้กับตัวเอง ครอบครัวและโลกของเรา ด้วยการดูแลสุขภาพ ไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมรอบตัวเรา เพื่อส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้กับลูกหลานและคนรุ่นหลังต่อไป

เพิ่มการรับประทานอาหารจากพืช

     การรับประทานอาหารจากพืชทดแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ ช่วยลดการได้รับไขมันอิ่มตัว เพิ่มการรับประทานใยอาหารและสารพฤกษเคมี ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เพิ่มกระบวนการต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ หรือ NCDs (Non-communicable diseases) เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคอ้วน เป็นต้น

     นอกเหนือจากประโยชน์ต่อร่างกายของเราเองแล้ว รู้หรือไม่ว่า การจะได้ผลผลิตเนื้อวัว 1 กิโลกรัม ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากกว่าการผลิตถั่วเหลืองถึง 60 เท่า อีกทั้งยังใช้น้ำสูงถึง 15,415  ลิตร ในขณะที่การปลูกข้าวใช้น้ำ 1,673 ลิตรเท่านั้น การรับประทานอาหารจากพืช จึงช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรน้ำได้

เพิ่มกิจกรรมทางกาย ด้วยการเดินหรือปั่นจักรยาน

     กิจกรรมทางกายที่เหมาะสม เป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพ ลองหันมาเดินทางด้วยการเดินหรือการปั่นจักรยาน แทนการนั่งรถยนต์ส่วนตัว เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ

     โดยเฉพาะการเดิน 30 นาที หรือ ปั่นจักรยาน 20 นาที ในแต่ละวัน ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตได้อย่างน้อย 10% หากเดินทางด้วยการเดินและการขี่จักรยานเป็นหลัก จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด 10% และช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ 30%

     การปล่อยมลพิษจากการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน และฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้น ถ้าหากเปลี่ยนวิธีเดินทาง จากรถยนต์ส่วนตัว มาเป็นขนส่งสาธารณะ จะสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 6.81 กก.ต่อวัน หรือหากเปลี่ยนจากรถยนต์ส่วนตัว มาเป็นการเดินหรือการขี่จักรยาน จะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 9.28 กก.ต่อวัน การเดินหรือการปั่นจักรยาน แทนการใช้รถยนต์ จึงช่วยทั้งป้องกันร่างกายเรา จากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ และช่วยโลกของเรา จากมลพิษอีกด้วย

เพิ่มการเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา

     กิจกรรมจิตอาสามีรูปแบบต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การปลูกป่า การเก็บขยะ การเขียนส่งกำลังใจให้กับผู้ป่วย การสอนหนังสือเด็กๆ การทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ การทำงานฝีมือ เพื่อแบ่งปันให้ผู้ขาดแคลน การเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมแบบไหน ก็ล้วนเป็นการแบ่งปันน้ำใจและความสุข เติมเต็มพลังใจให้กับตัวเอง ไปพร้อมกับการดูแลสังคมหรือสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น

     ในสมองมีระบบที่มีชื่อว่า mesolimbic system หรือ reward pathway จะถูกกระตุ้น เมื่อทำกิจกรรมจิตอาสา เป็นการตอบสนองเมื่อร่างกายได้ รับประทานอาหาร มีเพศสัมพันธ์ หรือได้รับสารเสพติด โดยการปล่อยสารสื่อประสาทที่ให้ความรู้สึกดี เช่น Dopamine, Oxytocin, Serotonin, และ Endorphins (DOSE) ด้วยเหตุนี้ เมื่อผู้คนแสดงน้ำใจต่อผู้อื่น พวกเขาจะรู้สึกดีและมีแนวโน้มที่จะทำพฤติกรรมเหล่านี้ซ้ำอีก กิจกรรมเหล่านี้ จึงมีแนวโน้มที่จะช่วยลดความเครียด และสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้คน

     ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างๆในชีวิต อาจทำให้เรารู้สึกกังวลและไม่มั่นคงได้ แต่การตั้งเป้าหมายในวันปีใหม่ ช่วยให้สมองเรารับรู้ว่า เรากำลังควบคุมบางอย่างและกำหนดทิศทางชีวิต วางแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้อาจจะมีอุปสรรคหรือสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ้าง แต่อย่าลืมว่า “ทุกความสำเร็จ เริ่มจากการลงมือทำ”