World Mental Health Day 2025
“มะเร็งและสุขภาพจิต: ดูแลสุขภาพกายใจ เข้าถึงได้ทุกสถานการณ์”
โรคมะเร็งไม่ใช่เพียงปัญหาสุขภาพทางกายเท่านั้น แต่ยังเป็นภาวะที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้ป่วยอย่างสิ้นเชิง เกิดผลกระทบทางจิตใจอย่างมากหลังจากได้รับการวินิจฉัยและเข้าสู่กระบวนการรักษา ทั้งต่อผู้ป่วยและคนรอบข้าง โดย American Cancer Society ระบุว่าผู้ป่วยมะเร็งมักเผชิญกับความกลัว ความเศร้า ความไม่แน่นอน และความสิ้นหวังบ่อยครั้ง ทั้งในระหว่างและหลังการรักษา ภาวะเหล่านี้อาจพัฒนาเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรควิตกกังวลได้
ผลกระทบทางจิตใจในผู้ป่วยมะเร็ง
ตัวอย่างการศึกษาชี้ให้เห็นว่า อัตราการเกิดภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลในผู้ป่วยมะเร็งสูงเกือบ 30% ภาวะซึมเศร้าและความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อกระบวนการรักษา บางงานวิจัยระบุว่า ปัญหาทางจิตใจในผู้ป่วยมะเร็งมีลักษณะคล้ายกับผลข้างเคียงของการรักษา เช่น อาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หรือปัญหาการนอนหลับ การมองข้ามอาการเหล่านี้อาจทำให้ผู้ป่วยรับมือกับโรคได้ยากขึ้น ลดคุณภาพชีวิต และเพิ่มความเสี่ยงต่อการพยายามฆ่าตัวตาย ดังนั้น การตระหนักถึงสัญญาณเตือนและการประเมินสุขภาพจิตอย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แม้ในยามภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉิน
ปัญหาสุขภาพจิต: ความท้าทายของผู้ป่วยมะเร็งในยามวิกฤต
เมื่อการดูแลรักษามะเร็งต้องเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน เช่น การแพร่ระบาดของโรค ภัยธรรมชาติ หรือความขัดแย้ง ปัญหาด้านสุขภาพจิตอาจเพิ่มเป็นทวีคูณ ตัวอย่างการศึกษาที่สำรวจในช่วงการระบาดของ COVID-19 พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น เนื่องจากความกังวลถึงการรักษามะเร็งที่ไม่ต่อเนื่อง การเข้ารับบริการสุขภาพจิตที่มีจำกัด ไปจนถึงความเครียดจากการแพร่ระบาด
ดังนั้น ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการช่วยเหลือผู้ป่วยกลุ่มนี้ เช่น การรับคำปรึกษาด้านสุขภาพผ่านการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) การตรวจคัดกรองและดูแลสุขภาพจิตควบคู่ไปกับการรักษามะเร็ง การลงพื้นที่ชุมชนในพื้นที่เสี่ยง หรือภัยพิบัติ รวมไปถึงการสร้างนโยบายที่เอื้อต่อการเข้าถึงบริการด้านร่างกายและจิตใจอย่างเท่าเทียม
โรคมะเร็งและสุขภาพจิตมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก ผู้ป่วยมักเผชิญความทุกข์ทางจิตใจ ซึ่งจะทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเกิดภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน การฝึกทักษะการรับมือกับความเครียด เช่น การเล่นโยคะ ฟังเพลง การวาดภาพ เล่นกับสัตว์เลี้ยง รวมถึงการได้รับการสนับสนุนดูแลจากครอบครัวก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน
เนื่องในวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งตรงกับวันสุขภาพจิตโลก ภายใต้แนวคิด “Access to Services – Mental Health in Catastrophes and Emergencies” ยิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงบริการสุขภาพจิตอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะในสถานการณ์ปกติหรือช่วงวิกฤต การเข้าถึงบริการสุขภาพจิตควบคู่กับการรักษามะเร็งจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง
รายการอ้างอิง
-
American Cancer Society. Mental Health and Distress [Internet]. 2024 Oct 16 [cited 2025 Aug 8]. Available from: https://www.cancer.org/cancer/managing-cancer/side-effects/emotional-mood-changes.html
-
Muzzatti B, Agostinelli G, Bomben F, Busato S, Flaiban C, Gipponi KM, et al. Intensity and Prevalence of Psychological Distress in Cancer Inpatients: Cross-Sectional Study Using New Case-Finding Criteria for the Hospital Anxiety and Depression Scale. Front Psychol. 2022;13:875410.
-
Krebber AM, Buffart LM, Kleijn G, Riepma IC, de Bree R, Leemans CR, et al. Prevalence of depression in cancer patients: a meta-analysis of diagnostic interviews and self-report instruments. Psychooncology. 2014;23(2):121-30.
-
Wang Y, Duan Z, Ma Z, Mao Y, Li X, Wilson A, et al. Epidemiology of mental health problems among patients with cancer during COVID-19 pandemic. Transl Psychiatry. 2020;10(1):263.
-
World Federation for Mental Health. World Mental Health Day 2025 [Internet]. 2025 [cited 2025 Aug 8]. Available from https://wfmh.global