ผู้หญิงยุคใหม่ อย่าลืม! ดูแลรังไข่ ก่อนหมดอายุ
สำหรับในคุณผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ อายุ 25-45 ปี การดูแลสุขภาพรังไข่เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ในคนส่วนใหญ่อาจมองข้ามถึงความสำคัญของรังไข่ที่ควรหวงแหน
ดังนั้นเพื่อประเมินการทำงานของรังไข่ และการดูแลรักษาเพื่อไม่ให้รังไข่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุก่อนกำหนด เราควรตรวจฮอร์โมนเพื่อดูการทำงานของรังไข่ เพื่อให้แพทย์สามารถแนะนำในการดูแลสุขภาพภายใน การวางแผนมีบุตรในอนาคตได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการยืดอายุประจำเดือนให้ยาวออกไปเพื่อให้คุณผู้หญิงก้าวเข้าสู่วัยทองได้ช้าที่สุดอีกด้วย
AMH (Anti-Mullerian Hormone)
ฮอร์โมนที่ผลิตจากรังไข่ของผู้หญิง เป็นตัวบอกถึงการทำงานของรังไข่และจำนวนไข่ที่ผลิตได้ รวมทั้งสามารถบอกได้ถึงโอกาสการตั้งครรภ์ได้ โดยค่าของ AMH จะลดลงเรื่อยๆเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และจะเริ่มหมดไปเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้นผลลัพธ์ของการตรวจแพทย์สามารถประเมินในขั้นตอนของการให้ยาฉีดกระตุ้นไข่และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเก็บไข่ได้อีกด้วย
FSH (Follicle Stimulating Hormone)
ฮอร์โมนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของรังไข่ มีผลต่อวงจรรอบประจำเดือนของคุณผู้หญิงอย่างมาก และกระตุ้นให้เกิดไข่สุกจนเกิดการตกไข่ หากมีระดับค่า FSH ต่ำเกินไปจะส่งผลต่อการเจริญพันธุ์อาจก่อให้เกิดอาการ PCOS หรือถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ และหากมีระดับค่า FSH สูงเกินไปอาจทำให้คุณผู้หญิงเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนก่อนกำหนด ส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ ซึ่งสรุปได้ว่า หากระดับค่า FSH ยิ่งสูงจะยิ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงของภาวะรังไข่เสื่อมสภาพ หรือไข่หมดอายุ นั่นเอง
E2 (Estradiol)
ฮอร์โมนเพศหญิงที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งแพทย์จะตรวจเพื่อทำการวินิจฉัยในเรื่องภาวะมีบุตรยาก ภาวะรังไข่เสื่อมสภาพ ความผิดปกติของรอบประจำเดือน รวมถึงความสมดุลของฮอร์โมนเพศ หรือในบางรายต้องประเมินการใช้ฮอร์โมนทดแทนในกลุ่มวัยทอง เป็นต้น
รวมถึงเราควรตรวจอัลตราซาวด์ TVS เพื่อดูความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ เพื่อช่วยเช็กความเสี่ยงโรคร้ายต่าง ๆ เช่น ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกรังไข่ เนื้องอกในมดลูก เป็นต้น
💖 ด้วยความปรารถนาดี 💖
จากคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และส่งเสริมสุขภาพสตรี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 028269971
Line: @womenandfertility หรือ https://lin.ee/kna2NJA