เพราะเราทุกคนต่างกัน! ทำความรู้จัก Personalized Vitamin
วิตามินเฉพาะบุคคลที่ตอบโจทย์ความต้องการของสายรักสุขภาพอย่างแท้จริง
ในปัจจุบัน เทรนด์เวลเนส (Wellness) หรือเทรนด์การดูแลสุขภาพกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะท่ามกลางกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่หันมาใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพและการป้องกันก่อนเกิดโรค (Preventive Medicine) มากขึ้น ผ่านวิธีการดูแลสุขภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายผ่านการทำกิจกรรมที่ชอบ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การให้ความสำคัญกับ Work-life Balance การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ตลอดจนการรับประทาน “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” หรือ “วิตามิน” เพื่อช่วยในการส่งเสริมสุขภาพให้ดียิ่งขึ้นตามหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) แล้วการรับประทานวิตามินนั้นดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่? วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
วิตามิน: กุญแจสู่สุขภาพที่สมดุล
วิตามินเป็นสารประกอบอินทรีย์ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ (ยกเว้นวิตามินดีที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองเมื่อได้รับแสงแดด) หรือสร้างได้ในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จึงต้องได้รับจากอาหารหรือแหล่งภายนอกในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งวิตามินแต่ละชนิดมีบทบาทเฉพาะ เช่น ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน เสริมสร้างกระดูก หากร่างกายได้รับวิตามินไม่เพียงพอ อาการที่แสดงออกมามักจะไม่จำเพาะเจาะจง เช่น รู้สึกเหนื่อยง่าย ผิวแห้ง ผมร่วง หรือระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการขาดวิตามินบางชนิดโดยที่เราไม่รู้ตัวและอาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพต่าง ๆ ตามมา
ในอดีตวิตามินและแร่ธาตุสามารถได้จากการรับประทานอาหารเพียงเท่านั้น จนกระทั่งปี ค.ศ. 1912 คาซิมิร์ ฟังก์ (Casimir Funk) นักชีวเคมีชาวโปแลนด์ได้ค้นพบถึงสาเหตุของโรคบางอย่างที่เกิดจากการขาดสารอาหาร เช่น โรคเหน็บชา โรคลักปิดลักเปิด เขาจึงได้คิดค้นคำว่า "Vitamine" ขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งมาจากการรวมกันของคำว่า "vita" (แปลว่า ชีวิต) และ "amine" (สารประกอบทางเคมีที่มีไนโตรเจน) ซึ่งวิตามินได้ถูกค้นพบจากการแยกสารบริสุทธิ์เพื่อนำมารักษาโรคขาดวิตามิน
ต่อมากลางยุคปี ค.ศ. 1930 วิตามินก็ถูกผลิตขึ้นในรูปแบบเม็ดเป็นครั้งแรก และได้ถูกจำหน่ายอย่างแพร่หลายและกลายมาเป็นที่นิยมนับตั้งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบัน
เปิดโลกใหม่ของการดูแลสุขภาพ ด้วย "วิตามินเฉพาะบุคคล" ปรับสมดุลชีวิตให้ตรงจุด
แม้ในปัจจุบันจะมีผลิตภัณฑ์วิตามินให้เลือกมากมายในท้องตลาด แต่การรับประทานวิตามินแบบ “เหมารวม” โดยไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ร่างกายอย่างละเอียด อาจทำให้ได้รับวิตามินบางตัวเกินความจำเป็น และขาดตัวที่สำคัญจริง ๆ
สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ ร่างกายของแต่ละคนมี "ความต้องการ" วิตามินและแร่ธาตุแตกต่างกันไปตามเพศ อายุ การใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร ความเครียด พฤติกรรมการนอน หรือแม้กระทั่งการเผชิญมลภาวะในสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างเช่น:
- ในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 หรือมลพิษทางอากาศ ร่างกายจะต้องการ สารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น วิตามินซีและวิตามินอี) เพิ่มขึ้น เพื่อลดการอักเสบระดับเซลล์และป้องกันความเสียหายของเนื้อเยื่อ
- เมื่ออายุมากขึ้น ระบบดูดซึมจะทำงานได้น้อยลง เช่น ผู้สูงอายุอาจ ดูดซึมวิตามินบี 12 ได้ลดลง เนื่องจากการหลั่งกรดในกระเพาะลดลง ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมบี 12 นอกจากนี้การดูดซึมแคลเซียมและวิตามินดีก็ลดลงตามอายุเช่นกัน
- ยาบางชนิด ก็สามารถรบกวนการดูดซึมวิตามินได้ เช่น ยาที่ใช้รักษาเบาหวานชนิดที่ 2 และยาลดกรดมีผลลดการดูดซึม วิตามินบี 12
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่ ต้องการวิตามินซีมากกว่าคนทั่วไป เพราะวิตามินซีถูกใช้ไปในการต่อต้านสารพิษจากควันบุหรี่และอนุมูลอิสระ หรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำมีแนวโน้มอาจขาดวิตามิน B1 (Thiamine) และแมกนีเซียมได้ง่าย
- วิตามินบางชนิด หากได้รับในปริมาณมากเกินไป ก็อาจไปรบกวนการดูดซึมวิตามินหรือแร่ธาตุอื่น เช่น การรับสังกะสีมากเกินไป อาจลดการดูดซึมของธาตุเหล็กและทองแดงได้
อีกทั้งร่างกายมนุษย์มี “ระดับความต้องการวิตามินที่เหมาะสมที่สุด” หรือที่เรียกว่า Sweet Spot / Optimal Level ซึ่งการได้รับวิตามินในปริมาณที่ "ต่ำเกินไป" หรือ "สูงเกินไป" ต่างก็ส่งผลเสียทั้งสิ้น งานวิจัยทางการแพทย์หลายชิ้นพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างระดับวิตามินกับผลลัพธ์ต่อสุขภาพมีลักษณะเป็นเส้นโค้งแบบ J-Curve กล่าวคือ ทั้งการขาดและการรับวิตามินเกินต่างทำให้ความเสี่ยงต่อโรคเพิ่มขึ้น การรู้ “ค่าที่พอดี” จึงเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลสุขภาพเชิงลึก
การตรวจวิเคราะห์ในระดับนี้ ช่วยให้สามารถระบุปัญหาและความต้องการของร่างกายแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด ทำให้สามารถปรับการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมกับตัวเราโดยเฉพาะ นำไปสู่การพัฒนา “วิตามินเฉพาะบุคคล” หรือ Personalized Vitamin ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สุขภาพของแต่ละคนอย่างแท้จริง
วิตามินเฉพาะบุคคลที่ BDMS Wellness Clinic: เมื่อ "วิทยาศาสตร์" มาพบกับ "ความพอดี"
BDMS Wellness Clinic เราเชื่อว่า “การดูแลสุขภาพที่ดี” ต้องเริ่มจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เราจึงใช้ศาสตร์เวชศาสตร์ป้องกันและเทคโนโลยีในการวิเคราะห์สุขภาพในระดับเซลล์ เพื่อค้นหาความไม่สมดุลในร่างกาย
- วิเคราะห์สุขภาพเชิงลึก: ตรวจเลือดอย่างละเอียดเพื่อประเมินระดับวิตามิน แร่ธาตุ ฮอร์โมน และสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
- ผลการตรวจเป็น “กระจกสะท้อนพฤติกรรมการใช้ชีวิต” เพราะแสดงให้เห็นรูปแบบการกินที่ไม่สมดุลที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ขาดการกินผักหลากสี กินเนื้อแดงมากเกินไป ไม่ค่อยได้รับไขมันดี กินอาหารซ้ำ เมื่อทราบแล้ว แพทย์จะให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมเพื่อปรับ "แพทเทิร์นการกิน" ให้สมดุลยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพจากรากฐานพฤติกรรม
- เสริมเฉพาะสิ่งที่ “ขาด”: ปรุงวิตามินแบบ “เฉพาะบุคคล” ที่ออกแบบตามผลตรวจสุขภาพ โดยจัดวิตามินที่ร่างกายขาดหรือวิตามินที่ร่างกายต้องการในปริมาณสูงในช่วงเวลานั้น ๆ รวมถึงการปรับวิตามินที่เกินให้มาอยู่ในจุดสมดุล
- เลือกฟอร์มวิตามินที่ดูดซึมได้ดีและเหมาะกับร่างกาย: วิตามินและแร่ธาตุแต่ละชนิดมักมีหลายรูปแบบทางเคมี ซึ่งฟอร์มเหล่านี้มีความสามารถในการดูดซึม (Bioavailability) แตกต่างกันออกไป บางฟอร์มร่างกายดูดซึมได้ดี บางฟอร์มดูดซึมได้น้อย ทำให้การเลือกฟอร์มที่ “เหมาะกับคุณ” เป็นสิ่งจำเป็น เช่น แมกนีเซียมไกลซิเนต/ซิเทรต ดูดซึมได้ดีกว่าออกไซด์ เป็นต้น
- ใช้แคปซูลที่ทำจากพืช: ปราศจากเจลาตินจากสัตว์ เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติหรือหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากสัตว์
ดังนั้น วิตามินเฉพาะบุคคลจึงไม่เพียงช่วยบำรุงร่างกายให้สามารถทำงานได้เป็นปกติอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังป้องกันการเกิดอันตรายจากการบริโภควิตามินเกินขนาดจนกลายเป็นโทษด้วย โดย “วิตามินเฉพาะบุคคล” นับเป็นการเปิดประตูสู่อนาคตของการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องแต่ละบุคคลได้อย่างครบถ้วน