เช็กลิสต์ 8 สิ่งที่ต้องทำก่อนการวางแผนการมีบุตร

8 สิ่งควรรู้ในการวางแผนการมีบุตร เริ่มต้นครอบครัวที่สมบูรณ์

  

คู่รักที่เริ่มต้นวางแผนครอบครัว และเตรียมความพร้อมสำหรับการมีลูก  

สำหรับคู่แต่งงานที่กำลังวางแผนครอบครัวและเตรียมจะมีลูก จำเป็นต้องตรวจสอบความพร้อมต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านสุขภาพร่างกายว่าแข็งแรงเพียงพอต่อการตั้งครรภ์หรือไม่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่คู่แต่งงานต้องทำคือการพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนการมีลูก แล้วยังมีอะไรที่คู่แต่งงานควรทำอีกบ้าง เพื่อให้การวางแผนครอบครัวและเตรียมมีลูกประสบความสำเร็จได้มากที่สุด เราจะมาบอกให้ได้รู้กัน

ความสำคัญของการวางแผนการมีบุตร

การเตรียมความพร้อมก่อนการมีลูก ด้วยการเข้ามารับการปรึกษากับแพทย์ที่มีความชำนาญการ เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนครอบครัว ที่คู่แต่งงานควรให้ความสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้สามารถกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการมีลูกได้ อีกทั้งช่วยในกำหนดจำนวนสมาชิกตัวน้อยที่จะเข้ามาเติมเต็มในครอบครัว เพื่อวางแผนในส่วนของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในอนาคต รวมถึงการวางแผนการมีบุตรยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดโรคทางพันธุกรรม รวมถึงความเจ็บป่วยที่จะส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ ลดโอกาสการเสียชีวิต การเจ็บปวด และภาวะทุพพลภาพของทั้งแม่และลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8 สิ่งที่ต้องทำก่อนการวางแผนการมีบุตร

เช็กความพร้อมก่อนการมีบุตร

สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนการตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหรือก่อนการมีบุตรคือ ต้องเช็กตนเองว่ามีความพร้อมเพียงพอหรือยัง ไม่ว่าเป็นอายุที่ควรบรรลุนิติภาวะแล้ว เพื่อเป็นการการันตีได้ว่า จะสามารถรับผิดชอบบทบาทและหน้าที่ของตนเองได้ รวมถึงมีระดับการศึกษาที่ใกล้เคียงกัน เพื่อสามารถพูดคุยวางแผนการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังควรมีรายได้เพียงพอต่อรายจ่าย และการเลี้ยงดูลูกต่อไปในอนาคต 

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

สิ่งสำคัญประการต่อมาที่คู่แต่งงานต้องทำ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการมีบุตรคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารดังต่อไปนี้

  • อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ ตับ เลือด เนื้อสัตว์ เนื้อแดงต่าง ๆ เครื่องในสัตว์ ไข่แดง อาหารทะเล ผักใบเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง และข้าวโอ๊ต เนื่องจากเป็นสารอาหารที่ส่วนช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือด
  • อาหารที่ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้แก่รังไข่ ได้แก่ ถั่วเหลือง อัลมอนด์ งาดำ คีนัว เมล็ดฟักทอง โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์ และบำรุงรังไข่ รวมถึงช่วยให้ไข่ตกตามปกติ อีกทั้งผนังมดลูกมีความแข็งแรงอีกด้วย
  • อาหารที่ช่วยบำรุงอสุจิ ได้แก่ ไข่ ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วปากอ้า ถั่วพู วอลนัต ซึ่งช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มปริมาณจำนวนอสุจิ อีกทั้งปกป้องเซลล์อสุจิไม่ให้เสื่อมง่ายได้อย่างดีเยี่ยม
  • เสริมด้วยวิตามิน ได้แก่ ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก เพื่อช่วยบำรุงเลือก ลดภาวะซีด และไตรเฟอร์ดีน เพื่อป้องกันการขาดสารไอโอดีน

ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เมื่อเริ่มวางแผนมีลูก ควรลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์ทำให้จำนวนอสุจิลดน้อยลง อีกทั้งยังส่งผลให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินที่จำเป็นได้ในปริมาณที่น้อยลง 

เลิกบุหรี่

การสูบบุหรี่ส่งผลกระทบต่อการเจริญพันธุ์ทั้งชายและหญิง อีกทั้งสารนิโคตินในบุหรี่ยังส่งผลให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไข่ตกช้าลง ไข่มีระดับโครโมโซมผิดปกติ และมีโอกาสในการแท้งลูกได้มากยิ่งขึ้น 

  

ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการมีลูก  

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยควบคุมให้มีน้ำหนักในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการมีลูก โดยผู้ชายที่เป็นโรคอ้วนจะมีความแข็งแรงของอสุจิลดน้อยลง ส่วนผู้หญิงที่มีโรคอ้วน ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากจนเกินไป จนส่งผลต่อการตกไข่ และเกิดความผิดปกติในการทำงานของรังไข่นั่นเอง

หยุดการคุมกำเนิดทุกวิธี

หลังจากที่คู่แต่งงานตัดสินใจที่จะมีลูก ควรต้องหยุดการคุมกำเนิดทุกวิธีลงทันที และต้องมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อลดความเสี่ยงในการติดโรคติดต่อที่จะเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์

ฉีดวัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

ในระหว่างการวางแผนการมีบุตร แพทย์จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งแบ่งออกเป็นดังนี้

  • วัคซีนก่อนการตั้งครรภ์ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบี และวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน
  • วัคซีนขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (Tdap) วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโควิด19 (Covid-19)

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์

สิ่งสำคัญประการสุดท้ายที่คู่แต่งงานต้องทำ เพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร คือการตรวจร่างกาย โดยแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจเลือด รวมถึงความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดว่า เหมาะสมเพียงพอที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้อย่างราบรื่นหรือไม่ อีกทั้งยังตรวจหาโรคติดต่อต่าง ๆ เช่น โลหิตจาง ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะภูมิคุ้มกันไวเกิน (SLE) และโรคธาลัสซีเมีย เพื่อทำการรักษาและวางแผนในการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยในขณะตั้งครรภ์ได้

ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่ควรทำสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนครอบครัวและต้องการจะมีลูก สำหรั0บท่านที่สนใจสามารถปรึกษาเพื่อวางแผนการมีบุตร รวมไปถึงการทำ ICSI เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีบุตรได้ที่ BDMS Wellness Clinic ที่พร้อมให้การดูแลโดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญการ

ติดต่อสอบถามที่เบอร์ 02-826-9999

หรือ LINE Official @bdmswellnessclinic

 

Share:

@2020 BDMS Wellness Clinic. All rights Reserved