เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผมร่วงในผู้ชาย พร้อมหลากหลายวิธีแก้!

จากสาเหตุถึงวิธีแก้ของผมร่วงในผู้ชาย

ปัญหาผมร่วงในผู้ชาย ใครว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ ถึงแม้จะไม่ได้ทำให้ต้องล้มหมอนนอนเสื่อ แต่การที่อายุมากขึ้นสวนทางกับเส้นผมบนศีรษะที่น้อยลง ก็ทำให้สุภาพบุรุษหลายคนรู้สึกกังวลใจไม่น้อย ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาช่วยคลายความกังวลดังกล่าว ด้วยการหยิบยกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผมร่วง พร้อมวิธีแก้ผมร่วงในผู้ชายมาอธิบายให้ได้อ่านแบบเข้าใจง่าย ติดตามได้เลย

  

ผมร่วง ผมบาง ทำให้ผู้ชายไม่มั่นใจ  

ทำไมผู้ชายถึงผมร่วงมากกว่าผู้หญิง?

ผมร่วงมักจะเป็นปัญหาที่กวนใจผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยสาเหตุก็มาจากการที่ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) เปลี่ยนแปลงเป็นฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งไปจับกับรูขุมขนบนหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมอ่อนแอ ร่วงง่าย วงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลง ส่งผลให้ผมบาง ศีรษะล้าน 

อย่างไรก็ตาม นอกจากฮอร์โมนเจ้าปัญหาแล้ว ผมร่วงที่เกิดในผู้ชายยังมีสาเหตุอีกหลายประการ โดยเราจะอธิบายในหัวข้อต่อไป

สาเหตุผมร่วงในผู้ชาย

  • โรคบางชนิด: ตัวอย่างเช่น โรคต่อมไทรอยด์ที่ส่งผลให้ฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานผิดปกติ นำไปสู่ฮอร์โมน DHT ที่เพิ่มสูงขึ้น หรืออีกโรคก็คือ โรค Alopecia Areata หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง” รวมถึงโรคซิฟิลิส ที่เกิดขึ้นเมื่อเชื้อแบคทีเรีย Treponema Pallidum เข้าสู่ร่างกาย เกิดผลกระทบต่อรูขุมขน ทำให้เส้นผมร่วงเป็นหย่อม
  • การใช้ยาบางประเภท: มียาหลายประเภทที่ส่งผลข้างเคียงทำให้เกิดผมร่วงในผู้ชาย ตัวอย่างเช่น ยาที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูง, ยาต้านการแข็งตัวของเลือด, ยาปรับสมดุลฮอร์โมน และยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้รากผมอ่อนแอลง เส้นผมบนศีรษะจึงค่อย ๆ ร่วงลง
  • ความเครียด: เมื่อร่างกายเผชิญกับความเครียด จะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา โดยฮอร์โมนนี้ส่งผลต่อรากผมโดยยืดระยะเวลา “Anagen Phase” (ระยะเจริญเติบโต) ของเส้นผมให้สั้นลง ส่งผลให้ผมร่วงมากกว่าปกติ นอกจากนั้น ความเครียดยังทำให้หลอดเลือดหดตัว เลือดที่ไปหล่อเลี้ยงเส้นผมก็น้อยตามไปด้วย รากผมจึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนน้อยลง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้เกิดปัญหาผมร่วงในผู้ชาย
  • สูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม รวมถึงเส้นผม สารเคมีในบุหรี่มีส่วนทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงรากผม จึงทำให้รากผมได้รับสารอาหารและออกซิเจนน้อยลง ส่งผลให้ผมร่วงง่าย

  

ผู้ชายกำลังโมโหที่ผมร่วง

  

3 แนวทางการรักษาผมร่วงในผู้ชาย

จากที่เคยต้องทำใจ และได้แต่สวมใส่หมวกเพื่อปกปิดร่องรอยผมร่วงบนศีรษะ แต่ด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ที่พัฒนาขึ้นมากในปัจจุบัน จึงมีวิธีแก้ผมร่วงในผู้ชายที่ได้ผลลัพธ์ดี และก็ไม่ได้มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น เนื่องจากความแตกต่างของสภาพหนังศีรษะ เส้นผม ไปจนถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่เหมือนกัน วิธีแก้ผมร่วงของผู้ชายจึงมีหลากหลายวิธี เพื่อแก้ปัญหาของแต่ละคนได้อย่างตรงจุด ดังต่อไปนี้

การรักษาผมร่วงในผู้ชายโดยการใช้ยา

 Minoxidil (Rogaine) และ Finasteride (Propecia, Proscar) คือยาสองชนิดที่เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการรักษาผมร่วงในผู้ชาย โดยมีความแตกต่างกันดังนี้

  • Minoxidil (Rogaine): ยาทาที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ใช้ทาบริเวณหนังศีรษะที่ผมร่วง วันละ 2 ครั้ง หรือตามคำแนะนำของแพทย์ อาจต้องใช้เวลา 4-6 เดือนเพื่อเฝ้าติดตามผลลัพธ์ 
  • Finasteride (Propecia, Proscar): ยาเม็ดที่ช่วยลดฮอร์โมน DHT ซึ่งเป็นสาเหตุของผมร่วง ใช้สำหรับผู้ชายเท่านั้น ระยะเวลาติดตามผลลัพธ์อยู่ที่ประมาณ 3-6 เดือน มีผลข้างเคียงคืออาจทำให้อารมณ์ทางเพศลดลง 

การรักษาผมร่วงโดยการปลูกผม

อีกหนึ่งวิธีแก้ผมร่วงของผู้ชายที่ได้รับความนิยมคือ การปลูกผม ซึ่งมีเทคนิคหลัก ๆ อยู่ 2 วิธี คือ FUT และ FUE โดยแต่ละเทคนิคมีจุดเด่นดังนี้

  • FUT (Follicular Unit Transplantation): เทคนิคดั้งเดิม โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาหนังศีรษะที่มีรากผมแข็งแรงจากบริเวณท้ายทอย มาเย็บต่อในบริเวณที่ผมร่วง วิธีนี้จะได้กราฟต์ผมจำนวนมาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงเป็นบริเวณกว้าง แต่มีข้อเสียคือ เกิดแผลเป็นยาวที่ท้ายทอย และใช้เวลาพักฟื้นนาน
  • FUE (Follicular Unit Extraction): เป็นเทคนิคที่ทันสมัยกว่า จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะนำรากผมทีละกอจากบริเวณท้ายทอย มาปลูกในบริเวณที่ผมร่วง วิธีนี้ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า FUT แต่แผลเป็นจะเล็กกว่ามาก แทบมองไม่เห็น ตอบโจทย์ผู้ที่มีผมร่วงเป็นหย่อม หรือต้องการปลูกผมในบริเวณที่จำกัด

การใช้เลเซอร์รักษาผมร่วง

ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยรักษาผมร่วงได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสะดวก โดยเลเซอร์ที่ใช้รักษาผมร่วงมี 2 ประเภทหลัก คือ เลเซอร์พลังงานต่ำ (LLLT) และเลเซอร์กระตุ้นรากผม (Laser Hair Growth Therapy)

  • LLLT (Low-Level Laser Therapy): เป็นการใช้แสงเลเซอร์พลังงานต่ำ ฉายลงบนหนังศีรษะ แสงเลเซอร์จะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่งผลดีต่อรากผม ช่วยให้รากผมแข็งแรงขึ้น และกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม
  • เลเซอร์กระตุ้นรากผม: ตรงกันข้ามกับ LLLT เพราะวิธีนี้จะใช้เลเซอร์พลังงานสูง เข้าไปช่วยขยายขนาดรูขุมขน กระตุ้นการสร้างเส้นผมใหม่ และยืดอายุของเส้นผม

สำหรับคุณผู้ชายท่านใดที่กำลังรู้สึกกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาผมร่วง อย่ารอช้า เข้ารับคำปรึกษาเพื่อรักษาด้วยวิธีเลเซอร์กระตุ้นรากผมได้ที่ BDMS Wellness Clinic โดยเราร่วมมือกับ Bioscor International บริษัทชั้นนำในการดูแล รักษา และฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะจากประเทศออสเตรเลีย เราผสานหัวใจสำคัญของการให้บริการด้านสุขภาพเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ เทคโนโลยีทันสมัย โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการส่งมอบการดูแลที่คุณควรได้รับ

สนใจนัดหมายแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพเส้นผมและวางแผนการรักษาได้เลย ที่เบอร์ 02-826-9999

หรือ LINE Official @bdmswellnessclinic

 

Share:

@2020 BDMS Wellness Clinic. All rights Reserved