วิตามินและแร่ธาตุบำรุงผม ป้องกันผมร่วง

วิตามินและแร่ธาตุบำรุงผม ป้องกันผมร่วง มีอะไรบ้าง และอยู่ในอาหารชนิดใดบ้าง​?

1. ไบโอติน (Biotin) หรือวิตามิน B7

มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการทำงานของเคราติน (Keratin) ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของเส้นผม และเล็บ ช่วยให้เส้นผม เล็บ ผิวพรรณแข็งแรง นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการอักเสบของร่างกาย ช่วยบำรุงระบบประสาท ช่วยเพิ่มไขมันดีและช่วยลดไขมันไม่ดี พบได้ในอาหารประเภทถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วลิสง อัลมอนด์ ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา ฯลฯ อีกทั้ง ยังพบได้ในเห็ดนานาชนิด กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และบรอกโคลี เป็นต้น ​

2. สังกะสี (Zinc)

เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ เพราะฉะนั้นการรับประทานอาหารที่มีสังกะสีอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล และสังกะสียังช่วยในกระบวนการสร้าง ซ่อมแซมเส้นผมและเล็บ ช่วยให้ต่อมไขมันบริเวณเส้นผมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น สังกะสีพบได้ใน ผัมโขม เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง โกโก้ และถั่วต่าง ๆ​

3. วิตามินซี (Vitamin C)

อย่างที่หลาย ๆ ท่านคุ้นเคยกันดีว่า วิตามินซีสามารถพบได้ใน ฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล มะนาว มะขามป้อม สตรอเบอร์รี ฯลฯ ซึ่งวิตามินซีมีประโยชน์หลายอย่าง ได้แก่ ช่วยลดการอักเสบและการถูกทำลายของเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งสารอนุมูลอิสระเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เส้นผมแก่ลง หงอกขึ้น ร่วงได้มากขึ้น นับได้ว่า วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ วิตามินซีเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างโปรตีนและคอลลาเจนอีกด้วย​

​4. ธาตุเหล็ก (Iron)

สำหรับผู้ที่มีภาวะขาดธาตุเหล็ก หรือภาวะโลหิตจาง (Anemia) จะมีอาการผมร่วง ผมบางมากกว่าปกติ เนื่องจาก ธาตุเหล็กมีส่วนสำคัญในการขนส่งเม็ดเลือดแดง ซึ่งเม็ดเลือดแดงจะขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงทั่วร่างกาย รวมไปถึงเส้นผมและหนังศีรษะ ธาตุเหล็กพบได้ใน เต้าหู้ ถั่วต่าง ๆ ข้าวโอ๊ต ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า ผักบุ้ง ตำลึง บรอกโคลี เป็นต้น​

​5. กรดโฟลิก (Folic Acid)

หรือวิตามินบี 9 (Vitamin B9) ทำหน้าที่สร้างเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย มีช่วยในการงอกของเส้นผม มีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือด และช่วยให้เม็ดเลือดมีความแข็งแรงมากขึ้น จึงสามารถป้องกันโรคโลหิตจางได้เป็นอย่างดี และมีเลือดไปบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ กรดโฟลิกพบได้ในถั่วนานาชนิด ธัญพืช บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง ผักโขม คะน้า กะหล่ำดอก ส้ม มะนาว มะละกอ และกล้วย​

อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุด และป้องกันการได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่มากเกินไป (Overdose) คุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนรับประทานวิตามินและแร่ธาตุที่กล่าวไปข้างต้น เนื่องจาก สภาวะร่างกายของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันและมีความต้องการวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ในปริมาณที่ต่างกัน วิตามินและแร่ธาตุบางชนิด หากรับประทานมากไป ก็จะมีผลข้างเคียง และอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้​