ปรับรอยยิ้มโดยไม่ต้องศัลยกรรม
ใคร ๆ ก็อยากมีรอยยิ้มที่สวยงามและดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะรอยยิ้มที่มั่นใจเป็นเสน่ห์ที่สามารถช่วยสร้างความประทับใจให้แก่ทุกคนที่พบเห็น เป็นเสมือนด่านแรกในการสานสัมพันธ์และเข้าสังคม ซึ่งถือเป็นใบเบิกทางที่นำเราไปสู่ความความสำเร็จ คนยุคใหม่จึงใส่ใจในบุคลิกภาพและรูปลักษณ์ภายนอกมากขึ้น
แต่หลายคนก็ประสบปัญหารูปปากหรือฟันไม่สวยจากหลายสาเหตุ เวลายิ้มรู้สึกว่าหน้าดูแปลก ๆ ทำให้ไม่ค่อยกล้ายิ้มอย่างเต็มที่ จนดูเหมือนหยิ่งหรือหน้าบึ้งตลอดเวลา พาลให้รู้สึกไม่อยากจะพบปะผู้คนหรือแม้กระทั่งถ่ายรูป หลายคนจึงหันไปพึ่งวิธีศัลยกรรมเพื่อแก้ไขรูปหน้าหรือรูปทรงริมฝีปากให้ สวยงามในแบบที่ต้องการ
ถึงแม้ว่าการศัลยกรรมจะดูเป็นเรื่องธรรมดาในสมัยนี้ แต่สำหรับบางคนที่ไม่อยากใช้วิธีนี้ เพราะกลัวการผ่าตัดหรือไม่อยากเจ็บตัว นวัตกรรมทางทันตกรรมในปัจจุบันก็สามารถช่วยบูรณะ ออกแบบ และปรับเปลี่ยนรอยยิ้มได้ด้วยเช่นกัน
ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลที่ทันสมัย ช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์รูปหน้าและดีไซน์รอยยิ้มให้เข้ากับบุคลิกและโครงหน้าของแต่ละบุคคลได้ หรือที่เรียกว่า บริการออกแบบรอยยิ้มแบบ 2 มิติ และ 3 มิติ และ 4 มิติ โดยเฉพาะการออกแบบรอยยิ้ม 4 มิติ ที่สามารถทดลองใส่แบบจำลองฟัน และลองใช้งานจริงในอิริยาบทต่าง ๆ เช่น การยิ้ม การพูด การออกเสียง การเคี้ยว เพื่อปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณก่อนรับการปรับรอยยิ้ม
การปรับรอยยิ้มหลังทำการออกแบบแล้วสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1. การทำวีเนียร์ คือ การปรับแต่งรูปฟันเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เช่น ฟันบิ่น สึก แตก หัก ฟันเหลือง หรือฟันขนาดไม่เท่ากัน การทำวีเนียร์จะช่วยให้ฟันดูขาวสะอาดสดใสและเรียงตัวสวยงามได้ดั่งใจ เพราะสามารถกำหนดสี รูปทรง และขนาดฟันให้เป็นไปตามความเหมาะสมและความต้องการของผู้เข้ารับบริการได้
2. การจัดฟันแบบใส (Invisalign) เป็นการจัดฟันที่มีความสะดวกสบายและดูดีกว่าการใส่เหล็กดัดแบบดั้งเดิม ช่วยแก้ปัญหาฟันเก ฟันห่าง หรือฟันยื่นผิดปกติ รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาเรื่องการสบฟันได้ด้วย ผลพลอยได้ก็คือใบหน้าเราก็จะดูเข้ารูปมากขึ้น เรายังสามารถใช้วิธีการรักษาร่วมกันระหว่างการทำวีเนียร์และการจัดฟันใสก็ได้
หรือจะเป็นการทำฟันปลอมเพื่อทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไปด้วยการทำรากเทียมหรือครอบฟัน ซึ่งมีลักษณะภายนอกและการใช้งานใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด วิธีการต่างๆ ข้างต้นเหล่านี้ค่อนข้างซับซ้อน และอาจต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนาน ผู้ที่สนใจจึงควรศึกษารายละเอียดและปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ