ข้อควรรู้! ก่อนฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV Vaccine) คือ วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma Virus) อันเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดมะเร็งปากมดลูก เพราะการติดเชื้อไวรัส HPV ทำให้เซลล์ปากมดลูกอักเสบเรื้อรังและเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งได้
ในปัจจุบันวัคซีนที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีด้วยกัน 3 ชนิด ดังนี้
- วัคซีนชนิดที่ป้องกันได้ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ 16 และ 18 ที่ทำ ให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
- วัคซีนชนิดที่ป้องกันได้ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และสายพันธุ์ 6 และ 11 ที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่
- วัคซีนชนิดที่ป้องกันได้ 9 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ 16, 18, 9, 11, 31, 33, 45, 52, และ 58) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายที่พัฒนามาจากวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ โดยสามารถป้องกันโรคได้ เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอ และหูดหงอนไก่
การฉีดวัคซีนต้องฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง
- ครั้งที่ 1 ฉีดในวันที่กำหนดเลือก
- ครั้งที่ 2 ฉีดหลังจากเข็มแรก 1-2 เดือน
- ครั้งที่ 3 ฉีดหลังจากเข็มแรก 6 เดือน
*ในเด็กผู้หญิง หากฉีดเข็มแรกก่อนอายุ 15 ปี สามารถฉีดวัคซีนเพียง 2 ครั้ง ห่างกัน 6 – 12 เดือน
ข้อดีของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV Vaccine)
- ประสิทธิภาพสูงในการป้องกันไวรัส HPV
- ผลข้างเคียงน้อย อาจมีปวด บวม ไข้ต่ำ ๆ แต่หายเองได้
- สามารถฉีดพร้อมกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ (Thin Prep)
- ป้องกันไวรัส HPV ได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย
- ไวรัส HPV นอกจากเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ยังรวมไปถึงมะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด และหูดหงอนไก่ด้วย
ดังนั้นการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีน HPV ให้ครบถ้วนตั้งแต่อายุยังน้อย จะยิ่งช่วยให้ห่างไกลจากโรคร้ายได้เป็นอย่างดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือทำการนัดหมาย
โทร: 028269999
Line: @bdmswellnessclinic หรือ https://lin.ee/Z4So1yQ
Share:
Recommended Packages & Promotions
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ราคาพิเศษ
คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และส่งเสริมสุขภาพสตรี
ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 67