การฉีดน้ำเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (Intrauterine Insemination - IUI)

คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และส่งเสริมสุขภาพสตรี คลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก และส่งเสริมสุขภาพสตรี
    ในคู่สมรสที่มีบุตรยากโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน การฉีดเชื้อผสมเทียมในโพรงมดลูก (Intrauterine Insemination-IUI) หรือเรียกกันสั้นๆว่า “IUI” เป็นวิธีช่วยการเจริญพันธุ์วิธีหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้ผลดีในระดับหนึ่ง โดยจะทำการใช้ยากระตุ้นรังไข่ เพื่อให้ถุงไข่มีการเติบโตเพิ่มขนาดขึ้น และใช้การตรวจอัลตราซาวด์และการใช้ยา เพื่อกำหนดการตกไข่ และทำการคัดน้ำเชื้อเลือกตัวอสุจิที่แข็งแรงฉีดเข้าสู่โพรงมดลูกในวันไข่ตก เพื่อให้ตัวอสุจิเข้าผสมกับไข่ ให้เกิดการตั้งครรภ์ ต่อไป
 
ขั้นตอนการรักษา
  1. เมื่อฝ่ายหญิงเริ่มมีประจำเดือน จะได้รับการกระตุ้นรังไข่โดยจะใช้ยารับประทาน หรือยาฉีด หรือใช้ทั้งยารับประทานและยาฉีดร่วมกัน โดยจะเริ่มใช้ยากระตุ้นตั้งแต่วันที่ 2 หรือ 3 ของรอบเดือนเป็นต้นไป
  2. ประมาณวันที่ 11-13 ของรอบเดือน จะทำการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวด์เพื่อดูว่ารังไข่สร้างถุงไข่ได้มากเท่าไรและมีขนาดเท่าไร เพื่อจะได้ให้ยากระตุ้นการตกไข่ต่อไปได้
  3. เมื่อถุงไข่โตถึงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 17-18 มม. แล้ว แพทย์จะให้ยาฉีดเพื่อกระตุ้นการตกไข่
  4. หลังจากฉีดยากระตุ้นการตกไข่ไปประมาณ 1-2 วัน คู่สมรสจะได้รับการนัดให้มาทำฉีดเชื้อผสมเทียม โดยฝ่ายชายจะเก็บน้ำอสุจิเพื่อนำไปคัดเชื้อที่แข็งแรง ใช้เวลาในการเตรียมน้ำเชื้อประมาณ 2-3 ชั่วโมง
  5. ในการฉีดเชื้อผสมเทียม แพทย์จะค่อยๆสอดสายที่บรรจุตัวอสุจิที่ผ่านการคัดเชื้อแล้ว เข้าไปในโพรงมดลูก และแพทย์จึงฉีดตัวอสุจิเข้าไป ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการฉีดเชื้อผสมเทียมประมาณ 10 – 20 นาที และไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบหรือยาแก้ปวดใดๆ ความสำเร็จของการรักษาขึ้นกับจำนวนและคุณภาพของไข่และอสุจิ อายุของฝ่ายหญิงและสุขภาพทั่วไป โดยทั่วไปอัตราการตั้งครรภ์ต่อการทำหนึ่งครั้งประมาณ 10-20% ซึ่งตรวจพบว่าฝ่ายชายมีเชื้ออ่อนเล็กน้อย การฉีดเชื้อผสมเทียมจะเป็นวิธีช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้

  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือทำการนัดหมาย

โทร: 028269971​

Line: @womenandfertility หรือ https://lin.ee/kna2NJA


Share:

@2020 BDMS Wellness Clinic. All rights Reserved